About

ประวัติบริษัท

โหระพาแคทเทอริ่ง เริ่มจากความรักในการทำอาหารของ คุณอาริยา มั่งนิมิตร หรือ “เจ้”  ที่ครอบครัวโหระพาเรียกขานด้วยความเคารพรัก ท่านชอบทำอาหาร และค้นคว้า พัฒนาสูตรอาหารต่างๆ ให้มีความแปลกใหม่เรื่อยๆตลอดมา รักษาสูตรอาหารไทยโบราณและต่อยอดจึงเกิดเป็น “ตำรับของโหระพา”  โดยท่านได้เกิดในครอบครัวคนจีน ซึ่งเป็นครอบครัวใหญ่แต่รักในการทำอาหารไทย จึงได้ทำอาหารตั้งแต่เด็กจนชาวบ้านในละแวกต่างก็ชมกันว่า “ลูกสาวบ้านนี้ทั้งสวย และทำอาหารอร่อยมาก”

       คุณบุญยงค์  มั่งนิมิตร เด็กหนุ่มนักเรียนนอกจากสหรัฐอเมริกา ด้วยอุปนิสัยพื้นฐานเป็นคนรักและชอบทำอาหารอาหารมาก ทำเป็นทุกอย่าง โดยตอนที่ไปศึกษาที่ต่างประเทศก็ได้อาศัยความสามารถ และทักษะทางด้านอาหารไปสมัครเป็นเชฟในช่วงที่ว่างจากการเรียนจนกระทั่งกลับมาถึงเมืองไทย

       ด้วยบุพพสันนิวาส ความรักได้ชักนำให้บุคคลทั้งคู่ได้มาแต่งงานกัน และด้วยความรักในการทำอาหารของทั้งคุณอารียา และคุณบุญยงค์ จึงได้ร่วมกันเปิดร้านอาหารไทยเล็กๆตรงท่าพระจันทร์ชื่อว่า “ร้านดุ๊ก” ใช้ชื่อตามลูกชายคนโต  โดยให้บริการทั้งอาหารไทย ข้าวราดแกง และอาหารตามสั่งทั้งไทย จีน ฝรั่ง เป็นร้านแรกๆ เมื่อกว่า 30 ปีที่ผ่านมา โดยหน้าร้านมองเห็นแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ร้านก็คลาคล่ำไปด้วยคุณลูกค้า และนักศึกษาธรรมศาสตร์ ที่มายืนรอหน้าร้านตั้งแต่ร้านยังไม่เปิด ทั้งนั่งรับประทานที่ร้าน, ใส่ถุงกลับบ้าน หรือใส่กล่องไปรับระทานที่ทำงานหรือที่คณะ ถือเป็นร้านแรกที่ทำให้เกิด Landmark ด้านอาหารของท่าพระจันทร์ จึงเกิดวลีติดปากในยุคนั้นว่า “นักศึกษาธรรมศาสตร์ที่ยังไม่เคยกินร้านดุ๊ก ท่าพระจันทร์ ถือว่ายังมาไม่ถึงท่าพระจันทร์” 

       ด้วยความความรักในอาหารไทย ที่อยากให้ทุกคนได้รับประทานอาหารไทยที่อร่อย และมีประโยชน์ ในราคายุติธรรม เราจึงคัดสรรแต่วัตถุดิบชั้นดี สดใหม่ ทำอาหารอย่างไม่หวงเครื่อง ทำเพื่อคุณลูกค้าที่ใครมาทานแล้วต้องอิ่ม อร่อย และมีความสุขกับอาหารของเรา ผนวกกับอัธยาศัยของทั้งคุณอารียา และคุณบุญยงค์ มีความยิ้มแย้ม มีความเป็นกันเอง บ่อยครั้งที่นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เกิดความประทับใจ
       เมื่อจบการศึกษาก็จะมาขอถ่ายรูปด้วยมากมาย  และตอนนี้คุณนนทสรวง  มั่งนิมิตร  ลูกสาวก็ได้มาช่วยงานที่ร้านด้วยในทุกวัน ซึ่งก็ได้ซึมซับความรักในอาหารไทยจากคุณพ่อและคุณแม่มาอย่างเต็มเปี่ยม กำเนิด  “โหระพาแคทเทอริ่ง”

       เหมือนโชคชะตาได้มาทดสอบกำลังใจ เมื่อคุณบุญยงค์ ได้เสียชีวิตลง และหลังจากนั้นไม่นานอีก 6 เดือนต่อมา คุณบุญเรืองรอง ลูกชายคนโต ก็ได้เสียชีวิตไปด้วยอีกคน นับเป็นความศูนย์เสียครั้งยิ่งใหญ่ของครอบครัวมั่งนิมิตร จึงทำให้ “ร้านดุ๊กท่าพระจันทร์” จะต้องปิดตัวลงไปเกือบ 5 ปี แต่ด้วยความรักในอาหาร เมื่อเรารักอะไร เราก็ไม่เคย ยอมแพ้ เรารักในอะไร เราก็จะทำต่อไปเสมอไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบใดหรือชื่อใดก็ตาม คุณนนทสรวง (ลูกสาว) จึงได้ชักชวนคุณอารียา (คุณแม่) ร่วมเปิดร้านอาหารด้วยกันอีกครั้งในนาม “โหระพาแคทเทอริ่ง” และยังคงรักษาความตั้งใจเดิม “ที่อยากให้ทุกคนรับประทานอาหารไทยที่อร่อย และมีประโยชน์” โดยเริ่มจากคุณนนทสรวง ซึ่งตอนนั้นยังเป็นผู้แทนยาอยู่ ได้นำอาหารกล่องไปฝากคุณหมอตามโรงพยาบาลต่างๆ และเมื่อกิติศัพท์ความอร่อยที่กระจายไปแบบปากต่อปาก ที่การันตีด้วยความอร่อยแบบเต็มคำ คุณหมอได้จึงสั่งกัน เยอะมาก เพราะอย่างที่เราทราบอาหารไทย คือสมุนไพรที่บำรุงร่างกาย ด้วยตรงจุดนี้ผู้แทนยาบริษัทต่างๆ จึงมักจะมีอาหารกล่องของ “โหระพาแคทเทอริ่ง” ไปฝากคุณหมอด้วยกันทั้งนั้น เพราะการให้สิ่งที่ถูกใจ ย่อมได้สิ่งที่ถูกใจ และด้วยการเรียกร้องว่าอยากจะให้จัดอาหารบุฟเฟ่ต์ตามโรงพยาบาลต่างๆ และลูกค้ามีทำบุญที่บ้าน อยากให้เราจัดอาหารบุฟเฟ่ต์เลี้ยงพระเลี้ยงแขก จึงเริ่มมีอาหารบุฟเฟ่ต์จัดเลี้ยงนอกสถานที่ เจ้าแรกๆของประเทศไทย